วันอาทิตย์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

พืชศึกษาถั่วพูโรงเรียนวัดเขมภิรตาราม



 ชื่อ : ถั่วพู
 ชื่อสามัญ : Winged bean
 ชื่อวิทยาศาสตร์ : Prosphocarpvs tetragonolobus (L.) DC
 วงศ์ : PAPILIONEAE

คุณค่าทางอาหารของถั่วพู
        ถั่วพู มีคุณค่าทางอาหารสูงมากพอ ๆ กับถั่วเหลืองมีโปรตีนที่ชื่อ Lectins สูง ทั้งยังมีสารเริ่มต้นวิตามินเอ หรือที่เรียกว่า โทโคเฟอรัล สารนี้ช่วยย่อยกรดไขมันอิ่มตัว และมีวิตามินเอ ในปริมาณสูงมาก อีกทั้งฟอสฟอรัสและวิตามินซีที่จะได้รับเต็ม ๆ หากกินถั่วพูสด ๆ

ลักษณะทั่วไปของถั่วพู
       ดอกถั่วพูนั้น มีสีขาวอมม่วงสวยน่ามอง ถ้าได้ลองปลูกในบ้าน ก็จะได้ทั้งอาหารผักและอาหารตาไว้เชยชม ใบถั่วพูนั้นเป็นใบย่อยสามใบรูปร่างเหมือนไข่ ผลเป็นฝักแบนมีปีก 4 ปีก เล็ก ๆ ฝักยาวประมาณ 3-6 นิ้ว เมล็ดกลมเรียบเป็นมัน รากเป็นหัวอยู่ใต้ดินมีปม

การปลูกและดูแลรักษาถั่วพู
       หากอยากปลูกถั่วพูไว้ดูทั้งดอกและเป็นผักสวนครัวก็ง่ายแสนง่าย แค่มีเมล็ดพันธุ์ และอาจมีรั้วระแนงหรือรั้วไม้ไผ่กบที่ว่างเพียงเล็กน้อยพอปักค้างให้เถาถั่วเลื้อยขึ้นปีนป่าย พืชในวงศ์ถั่วมักชอบน้ำมาก ๆ และขึ้นได้ดีในทุกสภาพภูมิอากาศ แต่หากเป็นฤดูฝนที่ฝนชุกก็เป็นที่ชอบอกชอบใจของถั่วพูมากทีเดียว เพียงรดน้ำเช้าเย็นอย่าให้ดินแห้งเกินไป ถั่วพูยังทนทานต่อโรคพืชหลายชนิด และถึงแม้มีหนอนบ้างก็อาจใช้วิธีหยิบออก เพราะปลูกในบ้านเราเอง และคงไม่มีใครปลูกถั่วพูไว้กินเองมาก จนต้องใช้ยาฆ่าแมลง และหากใครเป็นคนกลัวหนอนอย่างหนักจนต้องใช้ยาฆ่าแมลงจริงๆ ตอนนี้ก็มียาประเภทสารสกัดจากธรรมชาติอย่างเช่น สารสกัดจากสะเดา คนนี้คนเขียนก็ใช้อยู่ ได้ผลดีทีเดียว แต่มีคนแอบนินทาว่าสะเดาแบบที่ทำยากำจัดแมลงออกจะมีกลิ่นฉุนมากไป

ประโยชน์ของถั่วพู 
      คุณค่าสมุนไพรของถั่วพูมีมากเหมือนคุณค่าทางอาหารโดยมีส่วนที่ใช้เป็นยา คือ หัว และราก ส่วนหัวใช้บำรุงกำลัง แก้อ่อนเพลีย ทำให้รู้สึกปลอดโปร่ง แก้ร้อนในกระหายน้ำ วิธีใช้โดยนำมาตากแห้ง หั่นแล้วคั่วไฟให้เหลือง ชงดื่ม เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการอ่อนเพลีย ใบยอดอ่อนและเมล็ดมีโปรตีนสูง ซึ่งช่วยย่อยไขมันอิ่มตัว ส่วนรากใช้รักษาอาการปวดมวนท้อง รักษาโรคลมพิษกำเริบ

เมนูยำถั่วพู
ส่วนผสม

ถั่วพู 30 ฝัก
เนื้อหมูสันใน (ดิบ) หรือ เนื้อหมูต้มฉีก 1 ถ้วยตวง
กุ้งแชบ๊วย (ดิบ) หรือ กุ้งแชบ๊วย (ผ่าซีก) 15 ตัว
หัวกะทิเคี่ยว 1/3 ถ้วยตวง + 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำกะทิคั้น 1/2 ถ้วยตวง
มะพร้าวขูด 2 1/2 ถ้วยตวง
น้ำ1/4 ถ้วยตวง
มะพร้าวขูด คั่ว3 1/3 ช้อนโต๊ะ
หอมแดงเจียว4 ช้อนโต๊ะ
หอมแดงซอย1/3 ถ้วยตวง + 2 ช้อนชา
น้ำมันพืช (ถั่วเหลือง)1 1/2 ช้อนโต๊ะ
ถั่วลิสงคั่วโขลกหยาบๆ3 ช้อนโต๊ะ
พริกแห้งแกะเม็ด4 เม็ด
หัวหอมแดง4 1/2 หัว
กระเทียม4 1/2 หัว
น้ำมะนาว3 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา3 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย3 ช้อนโต๊ะ


วิธีทำ
  1. คั้นมะพร้าว ด้วยน้ำต้มสุก (อุ่น) เพื่อให้ได้กะทิที่เข้มข้น นำหัวกะทิไปตั้งไฟอ่อน เคี่ยว 2 นาที คนอย่าให้เป็นก้อน
    แล้วนำกะทิที่เคี่ยวแล้ว    แบ่งเป็น 2 ส่วน     ส่วนที่ 1 (ประมาณ 1/4 ถ้วยตวง)    ใช้สำหรับผสมน้ำยำ    ส่วนที่ 2
    (1 1/2 ช้อนโต๊ะ) ใช้สำหรับตักราดหน้า
  2. เนื้อหมูสันใน นำไปต้ม 15 นาที นำมาฉีกเป็นเส้นๆ
  3. นำน้ำที่ต้มหมูไปต้มกุ้งแชบ๊วย  (ใช้เวลา 3 นาที จากน้ำเดือด)  แกะเอาแต่เนื้อส่วนที่กินได้ ผ่าซีกกลางตัว   เพื่อ
    เอาขี้กลางหลังออก
  4. ล้างถั่วพูให้สะอาดตัดหัวตัดท้ายซอยเฉียงยาวๆ  หนาประมาณ  1  มิลลิเมตร   ลวกในน้ำเดือดประมาณ  3  นาที
    ตักขึ้นแช่ในน้ำธรรมดา   เพื่อให้ผักสีสวยไม่คล้ำรีบนำขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำ
  5. นำส่วนผสมน้ำยำคือพริกแห้งแกะเม็ดออกคั่ว   โขลกละเอียด   ตามด้วยหอมแดงกระเทียมเผา โขลกละเอียดใส่
    ภาชนะผสมรวมกัน  ใส่หัวกะทิ  ปรุงรสด้วยน้ำปลา  น้ำตาลทราย  น้ำมะนาว  คนให้ละลายเข้ากัน
  6. ผสมถั่วพู เนื้อหมู ฉีกเป็นเส้น กุ้งผ่าซีก ปรุงด้วยน้ำยำผสมให้เข้ากันเคล้าเบาๆ เพื่อไม่ให้ถั่วพูช้ำ เนื้อหมูและกุ้ง
    ไม่เละ  ใส่ถั่วลิสงคั่ว มะพร้าวคั่ว  คลุกให้เข้ากัน
  7. ตักใส่จานที่รองด้วยผักกาดหอม  เพื่อให้ดูน่ารับประทาน  ราดหน้าด้วยหัวกะทิเคี่ยวแล้วโรยด้วยหอมเจียว



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น